เริ่มต้นที่นี่ เรียนเปียโนด้วยตัวเอง

“คีย์ของเปียโนมีแค่สองสีเท่านั้น ขาวกับดำ แต่มันสามารถสร้างเสียงออกมา เหมือนกับมีสีเป็นล้านสี อยู่ในใจคุณ” – Maria Cristina Mena

เปลี่ยนความฝัน ให้เป็นความจริง

การเล่นเปียโน เป็นความฝันของคนหลายคน ตั้งแต่เด็กวัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ จนไปถึงวัยเกษียร ส่วนเด็กเล็กน่าจะถูกคุณพ่อคุณแม่ขอร้อง (บังคับ) ให้เล่นมากกว่า ผมเป็นคนหนึ่ง ที่มีความฝันอยากจะเล่นเปียโน เพื่อความสุข ความสนุก เพลิดเพลิน มากกว่าที่จะเป็นนักดนตรีมือมืออาชีพ ที่ใช้เปียโนในการทำมาหากิน

เวลาล่วงเลยมาจนถึงวัยใกล้เกษียร เสียงของเปียโนจาก YouTube ผ่านเข้าหูทุกวัน หลากหลายแนว ไม่ว่าจะเป็นเพลงแนวเพื่อชีวิต เพลงลูกทุ่ง เพลงลูกกรุงเก่าๆ เพลงป๊อป เพลงสตริง หรือ เพลงสากลเก่าๆ ฟังจนตัดสินใจว่า ต้องเล่นเพลงเหล่านี้ เพลงที่ชื่นชอบ ด้วยตัวเองให้ได้ .. รุ่นนี้แล้วจะไหมมั้ยเนี้ย แต่เค้าว่า ..

ไม่มีใครแก่ เกินเรียน .. ต้องพิสูจน์ครับ

เริ่มต้นอย่างไรดีละ

เมื่อตัดสินใจแล้ว ก็ต้องลุยกันเลย (เวลามีน้อยแล้ว) .. แล้วจะเริ่มยังไงดีละ ! ขอบคุณ Google ครับ ตอบทุกคำถามที่อยากรู้  นี่คือคำถามที่ค้นหา และเจอกันทั่วไปใน Google ..

คำถามยอดฮิต ในการเรียนเปียโน – มาหาคำตอบกัน

• เรียนเปียโน ยากมั้ย
• เรียนเปียโน นานมั้ย ใช้เวลากี่ปี (คำถามยอดฮิต)
• เรียนเปียโน ที่ไหนดี
• เรียนเปียโน ด้วยตัวเอง ได้มั้ย
• จำเป็นมั้ย ต้องเรียนกับครู หรือโรงเรียนสอนดนตรี
• ค่าใช้จ่ายในการเรียนเปียโน เท่าไหร่
• ใช้เปียโน แบบไหนดี
• คีย์บอร์ด กับเปียโน ต่างกันอย่างไร ใช้แทนกันได้มั้ย
• เปียโนไฟฟ้า กับ เปียโนอคูสติก ต่างกันอย่างไร
• ซื้อเปียโน ยี่ห้ออะไร รุ่นไหนดี เยอะไปหมด
• เปียโนไฟฟ้า ยี่ห้อ Yamaha Kawai Casio ต่างกันอย่างไร รุ่นไหนดี
• ซื้อเปียโนไฟฟ้า มือสอง ดีมั้ย
• ซื้อเปียโน จากร้านไหน ในห้าง ในร้าน หรือ ออนไลน์ ดีละ
• เปียโน ราคาเท่าไหร่ ทนมั้ย อายุใช้งานได้กีปี
• หนังสือเรียนเปียโน ใช้เล่มไหนดี เล่มเดียว หรือ หลายเล่ม เริ่มเล่มไหนก่อนละ
• เค้ามีวิธีการเรียน การฝึกเปียโนกันอย่างไร ใช้เวลาเท่าไหร่ต่อวัน ฝึกอะไรบ้าง
• อีกเยอะเลย ..

แค่คำถาม เรื่องที่ต้องรู้ เยอะแยะมากมาก นี่ยังไม่รวม เรื่องหลัก คือ การอ่านโน๊ต การเล่นเปียโน .. ถึงตอนนี้เอาไงละ มันไม่ง่ายซะแล้ว .. ยังไงดีละ ..  แต่ เคยได้ยิน สุภาษิตจีน เค้ากล่าวไว้ว่า ..

“เดินทางหมื่นลี้ ต้องมีก้าวแรก .. เป็นก้าวที่ยากที่สุด”

มาตอบคำถามกัน – ดูซิครับว่า เห็นด้วยมั้ย

หลังจากไปศึกษาหาความรู้จาก Google ก็ได้ขอมูลดีๆ เป็นประโยชน์ จากอาจารย์ คุณครูสอนดนตรี หลายๆคนครับ เรามาดูคำตอบกัน

เรียนเปียโน ยากมั้ย ?

การเรียนเปียโนเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ มีทั้งส่วนที่ง่ายและยาก การทำความเข้าใจกับทฤษฎีดนตรี จังหวะ ตัวโน๊ต และสัญลักษณ์ บนโน๊ตดนตรี ไม่ใช่เป็นเรื่องยาก คนทั่วไปสามารถทำความเข้าใจได้ (ถ้าเปรียบเทียบกับวิชาด้านวิทยาศาสตร์ หรือวิศวกรรมศาสตร์ วิชาเหล่านี้ยากกว่าเยอะมาก)

แต่ส่วนที่ยาก ยากมากๆ ของการเล่นเปียโน หรือการเล่นดนตรีชนิดอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น กีตาร์ หรือไวโอลิน ก็คือ การทำให้เกิดเสียง หนักเบา จังหวะถูกต้อง และมีเสียงเพราะพริ้ง สร้างความสุขให้ทั้งกับคนเล่น และคนฟัง การที่จะสามารถทำแบบนี้ได้ จะต้องผ่านการฝึกฝนมามากพอสมควร (ฝึกนะครับ ไม่ใช่ อ่านทำความเข้าใจ หรือท่องจำ) ต้องมีความอดทน ขยัน มีวินัยสูงมาก และต้องใช้เวลาหลายปี ..

การเรียนดนตรี ไม่มีทางลัด ..

ซึ่งคนที่อยากเล่นดนตรีได้ อยากเล่นดนตรีเป็น หลายๆคน ไม่ผ่านจุดนี้ครับ .. คำตอบคือ ถ้าต้องการ “เล่นเปียโนเป็น” ยากครับ

เรียนเปียโน ต้องใช้เวลานานมั้ย ใช้เวลากี่ปี ?

คำถามยอดฮิต ของคนที่อยากจะหัดเล่นเปียโน .. เรียนเปียโนใช้เวลากีปี? ผมหมายถึง ไม่ใช่แค่ “เล่นเปียโนได้” นะครับ แต่ต้อง “เล่นเปียโนเป็น” คือสามารถเล่นได้ถูกต้อง ไพเราะ พูดง่ายๆคือ ไม่ต้องมีความสามารถสอบได้เกรดต่างๆ หรือเข้าแข่งกัน .. แต่สามารถโชว์ได้ เล่นบนเวทีได้ หรือเล่นให้เพื่อนบ้านฟังได้ โดยไม่ต้องปิดประตู หน้าต่าง ..

อย่างที่ตอบไว้ในคำถามแรกครับ “การเรียนดนตรี ไม่มีทางลัด” ต้องอาศัยระยะเวลาในการเรียนรู้ การฝึกฝน การจดจำของสมอง การทำงานของนิ้วมือให้สัมพันธ์กัน เป็นไปอย่างธรรมชาติ บางคนบอกว่า ต้องทำให้เปียโน เป็นเหมือนอวัยวะส่วนหนึ่งของร่างกายครับ ..

คร่าวๆ นะครับ สำหรับมือสมัครเล่น คนทั่วไป ถ้ามีการฝึกเปียโนทุกวัน วันละ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง (ฝึกทุกวันนะครับ ไม่ใช่ฝึกทั้งวัน แต่สัปดาห์ละ 1 ครั้ง แบบนี้ ไม่มีครูคนไหนแนะนำครับ) .. การเรียนเปียโนขั้นต้นน่าจะใช้เวลา ประมาณ 1-2 ปี ขั้นกลางประมาณ 3-5 ปี สำหรับขั้นสูง คงต้องเล่นไปตลอดชีวิตครับ ดนตรีเป็นสิ่งที่สามารถเรียนรู้ได้ ไม่มีวันหมด .. แต่ต้องขอย้ำอีกที .. “ฝึกทุกวัน” นะครับ

สำหรับผม ไม่ได้สนใจเรื่องเวลาครับ ขอให้ฝึกด้วยความสนุก ทุกวัน (สัปดาห์ละ 5-6 วัน) คาดว่า สักวันหนึ่ง คงจะ เล่นเปียโน “เป็น” ครับ .. หลายคนบอกว่า ..

ทุกการเดินทาง มีจุดหมายปลายทางซ่อนอยู่ .. แต่ต้องทำให้ ระหว่างการเดินทางมีความสุข ความสนุก มีความหมายและน่าจดจำ

จะเลือกเรียนเปียโน แบบไหนดี ? – แล้วแบบไหนเหมาะกับคุณละ

จากการค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เนท ได้ข้อมูลหลากหลาย เอามาตอบรวม ๆ กัน หลาย ๆ คำถามนะครับ .. เรียนเปียโนที่ไหนดี  จำเป็นต้องเรียนกับครูมั้ย สามารถเรียนด้วยตนเองได้มั้ย และค่าใช้จ่ายในการเรียนเปียใน ให้เล่น “เป็น” ประมาณเท่าไหร่ .. มาดูคำตอบกันครับ

การเรียนเปียโน 4 รูปแบบ

เรามาดูกันครับว่ารูปแบบการเรียนเปียโนมีแบบไหนบ้าง และราคาค่าเรียนเปียโน ต้องมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ผมคิดว่า การเรียนเปียโน สำหรับผู้ใหญ่วัยทำงาน หรือเกษียรอายุ น่าจะมีการเรียนอยู่ 4 รูปแบบ คือ

1. เรียนเปียโนกับคุณครู สอนตัวต่อตัว
2. การเรียนเปียโนด้วยตัวเอง
3. การเรียนเปียโน แบบหลักสูตรออนไลน์
4. เรียนตัวต่อตัวกับคุณครูระยะหนึ่ง แล้วมาเรียนด้วยตัวเอง

มาดูรายละเอียดในแต่ละแบบกันครับ

1. เรียนเปียโนกับคุณครู สอนตัวต่อตัว

เรียนเปียโนกับคุณครู สอนตัวต่อตัว (เรียนคนเดียว) อาจจะเรียนที่โรงเรียนสอนดนตรี หรือให้คุณครูมาสอนที่บ้าน หรืออาจจะเรียนกับคนอื่นหลายคนเป็นห้องเรียน ซึ่งเปิดสอนโดยมหาวิทยาลัย หรือสถาบันการศึกษาต่าง ๆ เป็นหลักสูตร การสอนดนตรี สำหรับบุคคลภายนอก

แต่ละแบบก็จะมีข้อดี ข้อเสีย แตกต่างกันออกไป ..

การเรียนกับคุณครูตัวต่อตัว น่าจะได้ประโยชน์สูงสุด ในแง่ของการสอน การดูแล การให้คำแนะนำ การปรับหลักสูตรให้ตรงกับความต้องการของผู้เรียนมากที่สุด แต่แน่นอน วิธีนี้เป็นวิธีที่มีค่าใช้จ่ายสูงที่สุด ในปัจจุบัน (ปี พ.ศ. 2563) ค่าใช้จ่ายการเรียนเปียโน อยู่ที่ประมาณ ชั่วโมงละ 1,000 บาท เรียนสัปดาห์ละ 1 ชั่วโมง .. ตกค่าใช้จ่ายประมาณ 4,000 บาทต่อเดือน หรือประมาณ 50,000 บาทต่อปี ไม่รวมค่าเดินทางและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ .. ถ้าเรียนเป็นระยะเวลา 3 ปี ก็จะใช้เงินในการเรียน ไม่น้อยกว่า 150,000 บาท .. ไม่น้อยเลย ใช่มั้ยครับ

ส่วนการเรียนหลักสูตรดนตรีสำหรับบุคคลภายนอก กับสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ค่าใช้จ่ายในการเรียน จะถูกกว่ามาก (น่าจะไม่น้อยกว่า 2-3 เท่า หรือมากกว่านั้น) และได้เพื่อนเยอะ .. แต่ข้อเสียก็คือ คุณครูไม่สามารถดูแลนักเรียนทุกคนได้ทั่วถึง มีวันและเวลาเรียนที่แน่นอน และการเรียนก็ไม่สามารถปรับให้เหมาะสมกับผู้เรียนแต่ละคน .. ข้อดีคือ ถูกครับ

2. การเรียนด้วยตัวเอง

การเรียนเปียโนอีกแบบหนึ่ง ก็คือ “การเรียนเปียโนด้วยตัวเอง” โดยการศึกษา เริ่มฝึกเปียโนเบื้องต้น จากหนังสือเรียนเปียโนต่าง ๆ เรียนรู้จากอินเตอร์เนท รวมทั้งดูวิธีการฝึก การสอนฟรีๆ จาก YouTube หรือ Facebook ซึ่งปัจจุบันมีให้ดูเยอะมาก ๆ

วิธีนี้ประหยัดที่สุด ค่าใช้จ่ายน้อยมาก ๆ หรือแทบจะไม่มีเลยก็ว่าได้ .. แต่วิธีนี้มีข้อเสีย หรือปัญหาในการเรียน หลายอย่าง เช่น

• ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นตรงไหนดี
• ข้อมูลการเรียน หลากหลาย ไม่ต่อเนื่อง สะเปะสะปะ
• ไม่มีตำรา หรือหนังสือประกอบการเรียน
• สอนไม่ละเอียด หรือสอนแค่เบื้องต้นเท่านั้น
• ไม่สามารถสื่อสารแบบ 2 ทางได้ ไม่มีคำแนะนำ ปรึกษา หรือแก้ไข
• ไม่มีการติดตามผล หรือควบคุมการเรียน

คนที่จะสามารถเรียนด้วยตัวเองวิธีนี้ได้ จะเป็นเป็นคนที่มีทักษะ มีวินัยในการเรียนรู้ด้วยตัวเองมากพอสมควร ไม่เช่นนั้นแล้ว การเลือกเรียนด้วยวิธีนี้ ประสบความสำเร็จน้อยมาก

ข้อดีของการเรียนด้วยตัวเอง ก็คือ ผู้เรียนสามารถจัดเวลาเรียน ได้ตามสะดวก และที่สำคัญ .. เป็นวิธีที่ ค่าใช้จ่ายถูกที่สุด ถูกมาก ๆ .. ค่าใช้จ่ายในการซื้อหนังสือ รวมๆ น่าจะประมาณ 3,000 – 5,000 บาท หรือหาโหลดฟรีได้ตามเว็ปไซต์ .. แต่ แน่นอน ยากที่สุด

3. การเรียนเปียโน แบบหลักสูตรออนไลน์

การเรียนเปียโน แบบ ออนไลน์ ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่นิยมกันในปัจจุบัน คล้ายๆ กับการผสมการเรียนแบบที่ 1 และแบบที่ 2 เข้าด้วยกัน .. คือเรียนด้วยตัวเองที่บ้าน แต่สามารถ ปรึกษา หรือ ได้รับคำแนะนำ จากครูผู้สอนผ่านทาง ของทางออนไลน์ได้ ไม่ว่าจะเป็น Facebook หรือ Skype หรือ Line Application ปัจจุบันมีคุณครูหลายท่าน สอนแบบนี้ สำหรับนักเรียน ค่าใช้จ่ายจะถูกกว่าแบบที่ 1 มาก แต่ต้องมีวินัยในการเรียน การฝึกฝน เหมือนแบบที่ 2 นะครับ

ค่าใช้จ่ายในการเรียนด้วยวิธีนี้ น่าจะอยู่ประมาณ 1,000 บาทต่อเดือน หรือ ประมาณ 10,000 – 20,000 บาทตลอดชีพครับ

4. เรียนตัวต่อตัวกับคุณครูระยะหนึ่ง แล้วมาเรียนด้วยตัวเอง

การเรียนเปียโน อีกแบบหนึ่ง ที่สามารถวางแผนได้ ก็คือ การเรียนกับคุณครูในแบบที่ 1 ซักระยะหนึ่ง (เช่น 6 เดือน ถึง 1 ปี) เพื่อให้สามารถเล่นเปียโนพื้นฐานได้อย่างถูกต้อง ไม่แนวทางการเรียนการฝึกที่ชัดเจน .. และหลังจากนั้น ถ้ามีพื้นฐานดี และมีวินัยการฝึกสม่ำเสมอ สามารถเปลี่ยน มาเลือกเรียนด้วยตัวเอง ในแบบที่ 2 ได้ต่อไป .. วิธีนี้ จะได้รูปแบบการฝึกที่ถูกต้อง และ ที่สำคัญ จะประหยัดค่าใช่จ่ายในการเรียนในระยะยาว

เลือกการเรียนเปียโนแบบไหนดีละ ..

สำหรับผม อยากจะเริ่มเรียนเปียโน โดยใช้แบบที่ 2 คือ ฝึกด้วยตัวเองก่อน .. ทดสอบทักษะการเรียนรู้ด้วยตนเอง วินัยการฝึกฝน และพัฒนาการการเล่นเปียโน .. ถ้าไม่ประสบความสำเร็จ หรือไปไม่ไหวจริง ๆ .. คงต้องเปลี่ยนเป็น การเรียนในแบบที่ 1 หรือแบบที่ 3 ในอนาคตครับ ..

ย้ำกันอีกทีครับ (เตือนตัวเองด้วย) .. จะเรียนเปียโนได้สำเร็จ “เล่นเปียโนเป็น” ไม่ว่าจะเลือกวิธีการเรียนแบบไหนก็ตาม .. สิ่งที่ขาดไม่ได้ ก็คือ ..

“การฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ ทุกวัน ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน“

.. ไม่มีทางลัดครับ

เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ อ่านแล้ว คิดว่าแบบใหนเหมาะกับตัวเองครับ ทั้งในเรื่องงบประมาณ ค่าใช้จ่าย ความสะดวก และความชอบของแต่ละคน .. ตัดสินใจแล้วลงมือเลยครับ ..

Electric Keyboard กับ Digital Piano มีความแตกต่างกันอย่างไร ? – แทนกันได้มั้ย

สำหรับคนที่ไม่มีความรู้เรื่องเครื่องดนตรี ถ้ามองเผิน ๆ จะบอกว่า เครื่องดนตรี ทั้ง 2 ชนิดนี้เหมือนกัน ไม่สามารถแยกความแตกต่างระหว่าง คีย์บอร์ด กับ เปียโนไฟฟ้า ได้

จริง ๆ แล้ว ทั้ง 2 อย่างมีความแตกต่างกันอยู่หลายอย่าง ทั้งการใช้งาน และตัวเครื่อง เรามาดูกันว่า คีย์บอร์ดและเปียโนไฟฟ้า มีความต่างกันตรงจุดใหนบ้าง

1. น้ำหนักของคีย์ หรือ ลิ่มนิ้ว

ข้อนี้เป็นความแตกต่าง และมีความสำคัญมากที่สุด .. ลิ่มคีย์ของคีย์บอร์ดจะมีขนาดเล็กกว่า บางกว่า และมีน้ำหนักเบาเวลากดลงไป

ส่วนลิ่มคีย์ของเปียโนไฟฟ้า จะมีขนาดใหญ่กว่า และเวลากดต้องใช้แรงมากกว่าพ และน้ำหนักของแต่ละคีย์ก็จะไม่เท่ากัน (คีย์เสียงทุ้มจะหนัก ส่วนคีย์เสียงแหลมจะเบา) นอกจากนี้ คีย์ของเปียโนไฟฟ้า ยังสามารถกดเสียงเบาและดังได้ตามน้ำหนักมือได้ด้วย เนื่องจากเป็นการจำลองแบบมา ให้เหมือนกับเปียโนเครื่องใหญ่ หรือที่เรียกว่า แกรนด์เปียโน (Grand Piano)

2. จำนวนแป้นคีย์

แป้นคีย์ของคีย์บอร์ดจะมีจำนวน 61 คีย์ หรือ 64 คีย์ หรือ 76 แป้นคีย์ .. ส่วนแป้นคีย์ของเปียโนไฟฟ้าขนาดมาตรฐานจะมีจำนวน 88 คีย์ โดยออกแบบมาให้เหมือนกัน แกรนด์เปียโน

3. แพดเดิ้ล (Pedal)

แพดเดิ้ล เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญตัวหนึ่งของเปียโนไฟฟา สำหรับใช้เท้าเหยียบ เพื่อทำให้เสียงยืดยาวขึ้น หรือเสียงเบาลง ชุดมาตรฐานของเปียโนไฟฟ้าจะมี ที่เท้าเหยียบ 3 ตัว .. สำหรับคีย์บอร์ดทั่ว ๆ ไป จะไม่มีอุปกรณ์ชนิดนี้

4. เสียง

เสียงของคีย์บอร์ด จะเป็นเสียง อิเล็กทรอนิคส์ หลากหลาย .. ส่วนเสียงของเปียโนไฟฟ้ามาตรฐาน จะมีการเลียนแบบเสียงมาจาก แกรนด์เปียโนตัวจริง เพื่อให้เสียงใกล้เคียงมากที่สุด ปัจจุบันเครื่องดนตรีทั้งสองชนิดนี้ มีการสร้างเสียงต่าง ๆ ได้หลากหลายมากขึ้น

ตอนนี้ คงจะแยกความแตกต่างของคีย์บอร์ด และ เปียโน ได้แล้วนะครับ .. เลือกซื้อเครื่องดนตรี ให้ถูกต้อง และเหมาะกับ การใช้งาน นะครับ

ถ้าถามว่า ใช้คีย์บอร์ดมาฝึก มาเรียน แทนเปียโน ได้มั้ย .. คำตอบคือ ไม่ได้นะครับ

เปียโนไฟฟ้า กับ เปียโนอคูสติก ต่างกันอย่างไร ? – มือใหม่ควรเลือกแบบไหนดี

ไหน ๆ ตั้งใจจะเป็นนักเปียโนกันแล้ว ก่อนหาซื้อเปียโนมาฝึก มาศึกษาเรื่องเปียโนกันหน่อยครับ ว่าเปียโนมีแบบไหนกันบ้าง แต่ละแบบมีความแตกต่างกันอย่างไร และควรเลือกใช้งานให้เหมาะสมอย่างไร

ถ้าแบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ ๆ แล้ว เปียโนก็จะมีอยู่ 2 ประเภท คือ เปียโนไฟฟ้า ที่เรียกว่า Digital Piano หรือ Electric Piano .. กับอีกแบบหนึ่งก็คือ เปียโนอคูสติก (Acoustic Piano) .. เรามาดูรายละเอียดกันครับ

1. เปียโนอคูสติก (Acoustic Piano)

เปียโนอคูสติก เป็นเปียโนที่ผลิตมาแต่ดังเดิม มีความนิยมใช้งานมาเรื่อย ๆ จนถึงในปัจจุบัน เป็นเครื่องดนตรี สร้างเสียงขึ้นมาด้วยระบบสายและค้อน (String-Striking Mechanism) ไม่มีระบบไฟฟ้าเข้ามาเกี่ยวข้อง มีเสียงดังก้องกังวาน หนักเบาขึ้นอยู่กับ น้ำหนักที่กดลงบนแป้นเปียโน

เปียโนอคูสติก เป็นเปียโนที่มีอายุการใช้งานยาวนาน 30 ปี 50 ปี หรือมากกว่านั้น แต่เนื่องจากเป็นระบบสาย จึงมีความจำเป็นต้องมีการปรับจูนสายทุกปี เพื่อให้เสียงมีความถูกต้อง เที่ยงตรง

เปียโนอคูสติก ยังแบ่งย่อยออกเป็น 2 แบบ คือ แกรนด์เปียโน (Grand Piano) และ อัพไรท์เปียโน (Upright Piano)

แกรนด์เปียโน (Grand Piano)

แกรนด์เปียโนจะมีขนาดใหญ่ ใช้พื้นที่มาก มีน้ำหนักมาก ตั้งแต่ 300 Kg ขึ้นไป แต่ให้เสียงก้องกังวาน ส่วนใหญ่ ใช้ในการแสดง .. ปัจจุบันมีแกรนด์เปียโน ขนาดเล็กลงมา สามารถใช้ฝึกซ้อม หรือเล่นในบ้านได้ .. ในมหาวิทยาลัยหรือสถาบันสอนเปียโนบางแห่ง ก็ให้นักเรียน มีโอกาสได้เรียนหรือฝึกกับแกรนด์เปียโนครับ

(ภาพจาก Yamaha)

แน่นอนครับ เปียโนชนิดนี้มีราคาแพงที่สุด ราคาของแกรนด์เปียโน เริ่มต้นตั้งแต่ ประมาณ 500,00 บาท ไปจนถึงราคาหลายล้านบาท

อัพไรท์เปียโน (Upright Piano)

ส่วนเปียโนอัพไรท์ มีขนาดเล็กลงมา แต่ยังหนักมากอยู่นะครับ น้ำหนักประมาณ 200 Kg เหมาะกับการใช้งานในบ้าน หรือการฝึกในโรงเรียนต่าง ๆ .. ราคาของเปียโนอัพไรท์ โดยทั่ว ๆ ไป จะเริ่มจาก ประมาณ 100,000 ไปจนถึง 1,000,000 บาท

(ภาพจาก Kawai)

2. เปียโนไฟฟ้า (Digital Piano)

สำหรับเปียโนไฟฟ้า (Digital Piano หรือ Electric Piano) เป็นเปียโนที่มีขนาดเล็กลงมา น้ำหนักเบา ไม่มีระบบสายเหมือนกับเปียโนอคูสติก แต่ผลิตเสียงโดยใช้ระบบอิเล็คโทรนิกส์ สร้างเสียงได้หลากหลาย ไม่ต้องมีการปรับจูนเสียง นอกจากยังมีระบบเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น การผสมเสียงหลายเสียง การเลียนเสียงเครื่องดนตรีชนิดอื่น ๆ รวมทั้งการเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ หรือ Mobile Application และระบบ Bluetooth

เปียโนไฟฟ้า รุ่นที่เป็น Professional หรือ รุ่นที่ใช้สำหรับมืออาชีพ จะมีการจำลองเสียงจากเปียโนตัวใหญ่ หรือแกรนด์เปียโน เพื่อให้มีเสียงเหมือนกับอคูสติกเปียโนมากที่สุด  นอกจากนี้ ยังมีระบบน้ำหนักของแป้นคีย์ หนักเบา ใกล้เคียงกับเปียโนอคูสติกมาก

เปียโนไฟฟ้า ยังมีการแบ่งย่อยออกเป็นหลายแบบ เช่น เปียโนสำหรับพกพา หรือที่เรียกว่า State Piano หรือ Portable Piano และ Console Piano

State Piano หรือ Portable Piano

เปียโนแบบนี้จะมีขนาดเล็กลงมา (แต่รุ่นมาตรฐาน ก็จะมีแป้นคีย์ เท่ากับ Grand Piano คือ 88 คีย์) มีน้ำหนักเบา (น้ำหนักประมาณ 10 Kg) สามารถใช้เล่นที่บ้าน เคลื่อนย้ายได้ง่าย รวมทั้งสามารถพกพา ใส่รถ ไปเล่นที่อื่น ๆ ได้สะดวก

(ภาพจาก Yamaha)

Console Piano

นอกจากนี้ ยังมีเปียโนไฟฟ้า ที่เรียกว่า Console Piano เป็นเปียโนไฟฟ้าที่มีขนาด รูปร่างเป็นตู้ไม้ คล้าย ๆ กับเปียโนอัพไรด์ มีความสวยงาม ใช้เป็นเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้านได้เลย (ดูดี แม้คุณจะเล่นไม่เป็นก็ตาม) และสามารถใช้งาน ใช้ฝึกในบ้าน หรือตามโรงเรียนดนตรีต่าง ๆ ได้ดี เปียโนแบบนี้ สามารถเคลื่อนย้ายในบ้านได้ แต่ไม่ค่อยสะดวก (น้ำหนักประมาณ 40 Kg) เหมาะกับอยู่ประจำที่มากกว่า

(ภาพจาก Kawai)

อายุการใช้งานของเปียโนไฟฟ้า จะน้อยกว่า เปียโนแบบอคูสติก เนื่องจากเปียโนไฟฟ้าเป็นระบบอีเล็คโทรนิกส์ แต่ก็สามารถใช้งานได้เป็น 10 ปี (เค้าว่า ส่วนใหญ่ คนที่ฝึกเล่น จะเลิกไปก่อน ที่เครื่องจะเสีย ..) ไม่ต้องกังวลเรื่องนี้นะครับ

ราคาของเปียโนไฟฟ้า จะถูกกว่าเปียโนอคูสติก คือ มีราคาอยู่ประมาณ 10,000 บาท ถึง 100,000 บาท .. ขึ้นอยู่กับ ยี่ห้อ รุ่น รูปลักษณ์ ขนาด และคุณสมบัติพิเศษด้านเทคโนโลยี และน้ำหนักการกดของแป้นคีย์ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของราคาเปียโน

มาถึงตอนนี้ เราน่าจะมีความรู้ เกี่ยวกับ เปีนโน พอสมควร .. ยังไม่หมดนะครับ ในตลาดเปียโนปัจจุบัน ยังมีแบบอื่น ๆ ที่ไม่ได้กล่าวไว้ .. เช่น Hybird Piano เป็นเปียโนลูกผสมครับ .. ศึกษาไม่หมด เยอะจิง ๆ ครับ .. ข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวมา เป็นการศึกษาจากอินเตอร์เนทเท่านั้นนะครับ สำหรับใครที่มีความรู้ด้านนี้ และพบว่ามีข้อมูลบางอย่างไม่ถูกต้อง หรือเพิ่มเติม กรุณาช่วยแนะนำ แก้ไขด้วย จะขอบคุณมากครับ

มือใหม่ควร เลือกเปียโนแบบไหน มาฝึกดีละ

เปียโนมีหลายแบบ หลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น Grand Piano, Upright Piano, Digital Piano, State Piano, และ Console Piano หลายราคา .. แล้ว สำหรับมือใหม่อย่างเรา จะเลือกแบบไหนมาฝึก (ที่บ้าน) มาเรียนเปียโนกันดีละ ..

จากการศึกษามา ผมขอสรุปแบบนี้นะครับ

• Grand Piano ราคาแพง (เริ่มต้นที่ 5 แสนบาท) เหมาะสำหรับมืออาชีพ ไม่เหมาะกับ มือใหม่หัดขับครับ .. ยกเว้น คุณมีงบประมาณเพียงพอ และอยากได้เฟอร์นิเจอร์ สุดหรู มาประดับบ้าน .. ไม่ว่ากันครับ
• Upright Piano ราคาค่อนข้างแพง (เริ่มต้นที่ 1 แสนบาท) สำหรับมืออาชีพใช้ฝึกซ้อม ไม่เหมาะกับ มือใหม่อย่างเราครับ .. เหตุผลที่สำคัญอีกอย่างก็คือ ไม่สามารถต่อ หูฟัง (Headphone) เพื่อใช้สำหรับฝึกคนเดียวได้ การฝึกโดยใช้ Upright Piano จะรบกวนสมาชิกในบ้าน และ เพื่อนบ้านเป็นอย่างมากครับ .. สรุปคือ ไม่เหมาะ
• Console Piano มีราคาปานกลาง (ประมาณ 30,000 – 50,000 บาท) เปียโนแบบนี้ มีเสียงและน้ำหนักของแป้นคีย์ ใกล้เคียงกับ Grand Piano มีรูปร่างคล้าย ๆ Upright Piano เป็นเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างสวยงาม นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ ครบครัน  .. สามารถต่อหูฟัง เวลาฝึก ทำให้ไม่รบกวน สมาชิกในบ้าน หรือเพื่อนบ้าน .. เรื่องนี้สำคัญมากครับ .. ถ้าใครมีงบประมาณเพียงพอ ตั้งใจจะเล่นเปียโนในระยะยาว และไม่ได้ต้องการเอาเปียโนไปเล่นที่อื่น .. ผมขอแนะนำเลยครับ ซื้อมาฝึกที่บ้าน มาหัดเรียนเปียโน .. แบบนี้ เหมาะที่สุด
• State Piano หรือ Portable Piano มีราคาถูกกว่าแบบอื่น ๆ (สำหรับมือใหม่ ราคาประมาณ 10,000 – 30,000 บาท แต่ State Piano สำหรับรุ่นมืออาชีพ ราคาเป็นแสนเหมือนกันนะครับ) State Piano หรือ Portable จะมีขนาดเล็กลงมา เหมาะกับการวางในบ้าน ในห้องนอน น้ำหนักเบา (ประมาณ 10 Kg) เคลื่อนย้ายสะดวก ยังสามารถถอด พกพาไปเล่นที่อื่น ๆ นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยีใหม่ครบเครื่องครับ .. สำหรับผู้เริ่มต้น ต้องการฝึกเปียโน มีงบประมาณจำกัด และต้องการเคลื่อนย้าย .. State Piano เหมาะสมครับ

สรุปโดยรวมคือ .. เปียโนที่เหมาะสม สำหรับผู้เริ่มต้น มี 2 แบบครับ คือ Console Piano หรือ State Piano .. คำถามต่อไป .. ไปเดินตลาดออนไลน์ เจอเปียโนเป็นสิบยี่ห้อ มีหลากหลาย เป็นสิบ ๆ รุ่น .. แล้วจะเลือก ยี่ห้อไหน รุ่นไหนดีละครับ ..

สำหรับมือใหม่ ซื้อเปียโน ยี่ห้อไหน รุ่นไหนดี ?

หลังจากสรุปได้แล้วว่า เราจะซื้อเปียโน แบบใดแบบหนึ่งในสองแบบนี้ คือ Digital State Piano หรือ Digital Console Piano ตอนนี้มาหาข้อมูลกันครับว่า ในตลาดเปียโนปัจจุบัน (ปี 2020) มีเปียโน ยี่ห้อไหน รุ่นไหนขายบ้าง มีสเปก ความแตกต่างกันอย่างไร รุ่นไหนเป็นรุ่นยอดนิยม สำหรับคนที่เพิ่งหัดเปียโนเป็นครั้งแรก (Beginners)

ใครสนใจหรือมีเวลา ลองค้นหาในอินเตอร์เนทดูครับ มากมายไปหมด ทั้งในเว็บไซต์ ใน YouTube มีการ demo เสียง และเปรียบเทียบแต่ละรุ่น หลากหลาย ทั้งของบ้านเราเองเป็นภาษาไทย และของต่างประเทศที่เป็นภาษาอังกฤษ

จากการศึกษาข้อมูลจากอินเตอร์เนท พบว่ามีเปียโนยี่ห้อดัง ๆ ที่มีการพูดถึงกันบ่อย และคุ้นหูกัน หลายยี่ห้อ เช่น Yamaha, Casio, Kawai, Roland, Korg, Nord, และ Artesia เป็นต้น รวมทั้งมีการแนะนำเปียโนรุ่นที่เหมาะกับผู้เริ่มต้นด้วย ในหลายช่วงราคา เช่น ราคาไม่เกิน US$500 ไม่เกิน $1,000 หรือ ราคาไม่เกิน $1,500 เหรียญ

นอกจากนี้ ยังมีคำแนะนำด้วยนะครับว่า การเลือกเปียโนต้องมีเงื่อนไขอะไรบ้าง น่าสนใจ และเป็นประโยชน์จริง ๆ ครับ .. (ข้อควรระวัง – ต้องพิจารณาด้วยนะครับ มีการเชียร์สินค้า เพื่อต้องการขายของ มากเกินไปหรือเปล่า) .. เรามาดูครับว่าการเลือกเปียโนซักตัวสำหรับผู้เริ่มต้น ต้องมีเงื่อนไขอะไรบ้าง

เงื่อนไขการเลือก Digital Piano สำหรับมือใหม่

1. เปียโนมาตรฐาน ต้องมี 88 คีย์ ถ้าน้อยกว่านี้ ตัดทิ้งไปได้เลยครับ
2. น้ำหนักของแป้นคีย์ ต้องมีความหนักเบา ให้เสียงดัง เบา ใกล้เคียงกับ Grand Piano
3. มี Paddle ใช้เท้าเหยียบ เพื่อทำให้เสียงยาวขึ้น อย่างน้อย 1 ขา (มาตรฐานจะมี 3 ขา ซึ่งหลายคนบอกว่า อีก 2 ขาใช้น้อยมาก)
4. สามารถเสียบหูฟัง หรือ Headphone เพื่อใช้ในการฝึกซ้อม ไม่สร้างความรำคาญ หรือรบกวนคนอื่น .. สำคัญมาก ๆ ครับ ไม่มีไม่ได้นะครับ
5. มีตัวเคาะจังหวะอยู่ภายในตัว ที่เรียกว่า Metronome ซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้ ทำให้เราสามารถฝึกจังหวะเล่นเพลงได้ถูกต้อง แม่นยำ
6. สามารถบันทึกเสียงที่เราเล่นได้ เพื่อใช้ในการปรับปรุงการซ้อม และแก้ไขจุดบกพร่อง
7. เป็นรุ่นยอดนิยม ใช้งานกันกว้างขวาง ซื้อง่าย ขายคล่อง
8. มีการรับประกันสินค้า และมีศูนย์บริการ ในประเทศไทย

เห็นเงื่อนไขแล้ว บางคนอาจะบอกว่า .. เยอะจัง .. ผมขอยืนยันว่า ทุกข้อมีความจำเป็นครับ เมื่อเราเริ่มต้นฝึกเปียโนแล้ว จะได้ไม่ต้องมีปัญหาจุกจิกกับตัวเครื่อง หรือต้องเปลี่ยนเครื่องใหม่บ่อย ๆ .. เราจะได้มีเวลา มุ่งไปที่การฝึกเต็มที่ครับ

ขอเพิ่มเติมเงื่อนไขอีกหน่อยครับ .. เปียโนไฟฟ้าที่เราเลือก ควรเป็นเครื่องรุ่นใหม่ ที่ออกมาล่าสุดในช่วง 1-4 ปี เนื่องจากเปียโนไฟฟ้า หรือ Digital Piano ใช้อุปกรณ์อีเล็คทรอนิคส์เป็นหลัก และมีการพัฒนาสิ่งใหม่ ๆ เทคโนโลยีใหม่ ๆ รวดเร็วมาก .. และข้อสุดท้ายก็คือ ต้องเป็นเครื่องที่เรามีความชอบเป็นการส่วนตัว ทั้งในเรื่อง รูปทรง สีสรร และเสียง .. ข้อนี้มีผลทางใจเป็นอย่างมากครับ

ต่อไปเราจะไปเลือกเปียโนไฟฟ้ากันครับ อย่างน้อยต้องมีเงื่อนไขครบทั้ง 8 ข้อข้างบนนี้นะครับ ถ้ามีมากกว่านี้ ก็ถือว่าเป็นของแถมครับ

ศึกษามาเยอะแล้ว เรามาเลือกเปียโนไฟฟ้า กันเลยครับ

จากการแวะไปดูหลาย ๆ ร้านที่ขายเปียโน และมีการให้ข้อมูลสินค้าผ่านทางเว็ปไซต์ เจอเปียโนหลากหลายยี่ห้อ หลายรุ่น หลายราคาครับ .. คุณสมบัติโดยรวมจะเหมือนกัน แต่จะแตกต่างกันในเรื่องรายละเอียด .. เพื่อเป็นการรวบรัด และทำให้เราสามารถเลือกเปียโนไฟฟ้า ได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น .. ผมขออนุญาตตีกรอบการเลือกไว้แบบนี้นะครับ คือ ..

• เลือกเปียโนไฟฟ้า ในราคาประมาณ 20,000 บาทเศษ ถึงไม่เกิน 50,000 บาท
• ขอเลือกเปียโนจาก 3 ยี่ห้อเท่านั้น คือ Yamaha, Kawai, และ Casio ซึ่งเป็นยี่ห้อ ที่รู้จักกัน และคุ้นเคย กันในบ้านเราครับ รวมทั้งมีการแนะนำ การรีวิว เปรียบเทียบรุ่น กันอย่างกว้างขวางใน YouTube ครับ

สำหรับใครที่สนใจยี่ห้ออื่น ๆ ซึ่งเป็นที่รู้จัก และมีการใช้งานแพร่หลายเหมือนกัน หรือเป็นยี่ห้อใหม่ ๆ อื่นๆ นอกจาก 3 ยี่ห้อนี้ สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ด้วยตัวเองครับ

แนะนำเปียโนไฟฟ้า สำหรับผู้เริ่มต้น

ด้านล่างนี้ ผมได้แบ่งเปียโนไฟฟ้า รุ่นต่าง ๆ แบ่งตามยี่ห้อ เพื่อน ๆ สามารถเลือกได้ตามราคาหรืองบประมาณที่มีอยู่ หรือเลือกตามรูปแบบการใช้งาน หรือประเภทของเปียโน หรือเลือกตามยี่ห้อที่ชื่นชอบ หรือมั่นใจในด้านบริการ ได้ตามสะดวกเลยครับ

แนะนำเปียโนไฟฟ้า ยี่ห้อ Yamaha

• YAMAHA YDP-144 – Console Piano ราคา 36,xxx บาท
• YAMAHA P125 – State Piano ราคา 26,xxx บาท

แนะนำเปียโนไฟฟ้า ยี่ห้อ KAWAI

• KAWAI CN29 – Console Piano ราคา 46,xxx บาท
• KAWAI KDP110 – Console Piano ราคา 34,xxx บาท
• KAWAI ES110 – State Piano ราคา 29,xxx บาท

แนะนำเปียโนไฟฟ้า ยี่ห้อ Casio

• CASIO Privia PX-S3000 – State Piano ราคา 37,xxx บาท
• CASIO Privia PX-S1000 – State piano ราคา 25,xxx บาท

ราคาของแต่ละรุ่นที่แนะนำ เป็นราคาโดยประมาณ จะเห็นว่า ราคาของ State Piano จะอยู่ประมาณ 2 หมื่นบาทเศษ และราคาของ Console Piano จะสูงขึ้นเป็น 3-4 หมื่นบาทครับ .. แต่ละร้านอาจจะมีราคา แตกต่างกันเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับ options หรือ promotion ของแต่ละร้าน และเป็นราคาที่ update ล่าสุดในช่วงเดือน กรกฎาคม ปี 2020 ครับ

==> เช็คราคา ล่าสุด Digital Piano ได้ที่นี่ <==

นี่เป็นข้อมูลแนะนำเบื้องต้นนะครับ เพื่อช่วยให้เพื่อน ๆ ที่สนใจจะหัดเล่นเปียโนด้วยตัวเอง เลือกซื้อเปียโนได้ง่ายขึ้น .. แต่เนื่องจากมีเปียโนรุ่นใหม่ ๆ ออกมาเรื่อย ๆ และทำให้ราคาเปียโนรุ่นเก่า มีการเปลี่ยนแปลงราคาให้ต่ำลง ตามหลักการขายและการตลาด .. กรุณาหาข้อมูลเพิ่มเติม และสอบถามจากทางร้าน ในรายละเอียดของรุ่นต่าง ๆ และเช็คราคาล่าสุดในปัจจุบัน ด้วยนะครับ

สำหรับเพื่อน ๆ ที่เลือกเรียนกับคุณครูตัวต่อตัว หรือ เลือกเรียนเปียโนกับสถาบันสอนดนตรีต่าง ๆ กรุณาปรึกษาคุณครู เรื่องการเลือกเปียโนไฟฟ้าได้เลยครับ จะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ถูกต้อง ทันสมัย ตรงกับวัตถุประสงค์ของผู้เรียนครับ

ซื้อเปียโนไฟฟ้า มือสอง ดีมั้ย – ราคาถูกจัง !

สำหรับการซื้อขายแกรนด์เปียโน หรือ อัพไรท์เปียโน มือสอง เป็นที่นิยมกันครับ เนื่องจากราคาของเปียโนทั้งสองชนิดนี้มีราคาแพง และเป็นเปียโนอคุสติก ซึ่งมีอายุการใช้งานยาวนาน เป็น 20-30 ปี หรือมากกว่านั้น

แต่สำหรับการซื้อเปียโนไฟฟ้ามือสอง ต้องคิด และศึกษาให้ดีก่อนซื้อครับ .. หลายคนเห็นราคาเปียโนไฟฟ้ามือสองแล้วใจเริ่มเขวครับ เห็นเค้าประกาศขายกันในเว็บไซต์ และใน Facebook ดูสภาพแล้วยังดีมาก อาจจะ 80-90% แต่ราคาเปียโนถูกกว่าของใหม่มากเลย

ข้อดี คือ .. ราคาถูกครับ !

แต่ก็ไม่ค่อยมั่นใจ ไม่ทราบว่าจะเลือกเปียโนไฟฟ้ามือสองอย่างไรดี .. มีคำถามตามมามากมาย

• จะโดนหลอกมั้ย
• เครื่องย้อมแมวหรือเปล่า
• จะใช้งานได้อีกนานมั้ย
• เครื่องมีปัญหาหรือเปล่า จะตรวจสอบอย่างไร
• ข้อมูลที่ให้มาตรงกับเครื่องจริงหรือเปล่า
• เรื่องการรับประกันละ ถ้าเสียจะซ่อมที่ไหน
• และคำถามอื่น ๆ อีกมากมาย ..

ใครที่สนใจที่จะซื้อเปียโนไฟฟ้ามือสอง ลองดูคำแนะนำต่อไปนี้ครับ

คำแนะนำการเลือกซื้อ เปียโนไฟฟ้ามือสอง

• เปรียบเทียบราคาเปียโนไฟฟ้ามือสอง กับราคาเครื่องใหม่ หรือรุ่นที่ใกล้เคียงกัน เพื่อประเมินความน่าซื้อ
• เลือกเปียโนไฟฟ้า ที่มีสภาพสมบูรณ์ ดูจากภายนอกทั่วไป
• เลือกเปียโนไฟฟ้า ยอดนิยม และเป็นรุ่นที่ไม่เก่าเกินไป ยังมีการใช้งานอยู่ในตลาด
• เลือกซื้อจากร้านที่น่าเชื่อถือ ร้านค้าที่่ขายเปียโนมือสองโดยตรง
• หรือเลือกซื้อจากญาติ เพื่อน ๆ หรือคนที่รู้จัก ไวใจได้
• ควรให้ผู้ขาย มีโอกาสเล่นให้ฟัง เพื่อดูความสมบูรณ์ของเครื่องและเสียง
• ควรมีคนที่มีความรู้เรื่องเปียโน และสามารถเล่นได้ ช่วยตรวจเช็คและทดสอบ เรื่องแป้นคีย์ ตัว Pedal เสียง และฟังชั่นต่าง ๆ
• มีช่องทางการดูแล บำรุงรักษา หรือซ่อมแซม ถ้ายังมีการรับประกันจากศูนย์อยู่จะช่วยได้มาก

นี่เป็นคำแนะนำเบื้องต้นนะครับ ไม่แน่ครับ ถ้าจังหวะดี ๆ คุณอาจจะได้ เปียโนไฟฟ้ามือสอง ที่คุณภาพสมบูรณ์และราคาถูก มาฝึกมาเรียนเปียโนกันครับ

ซื้อเปียโน จากร้านไหน ในห้าง ในร้าน หรือ ออนไลน์ ดีละ

สำหรับนักเปียโนมือใหม่ การเลือกเปียโนมาฝึกซักตัว ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ใช่มั้ยครับ เราต้องรู้จักเรื่องเปียโนพอสมควร มันมีกี่แบบ ความเหมาะสมในการใช้งาน ยี่ห้อต่าง ๆ รุ่นต่าง ๆ และราคาที่เหมาะสม

มาถึงตอนนี้ ได้ยี่ห้อและรุ่นในใจเรียบร้อยแล้ว .. ควรซื้อจากที่ไหนดี .. มาดูคำแนะนำกันครับ

คำแนะนำการเลือกร้านค้า เพื่อซื้อเปียโนไฟฟ้า

• ควรเลือกร้านที่น่าเชื่อถือ เป็นที่รู้จัก มีที่ตั้งของร้านค้าชัดเจน
• มีการแนะนำสินค้า ให้คำปรึกษาการเลือกซื้อเปียโน ให้เหมาะสมกับความต้องการ และใช้งานของผู้ใช้
• มีการรีวิวสินค้า เปรียบเทียบคุณสมบัติ และราคาของเปียโนรุ่นต่าง ๆ
• มีการบริการที่ดี การส่งสินค้า การติดตั้งและตรวจเช็ค แบบมืออาชีพ
• มีการดูแล บำรุงรักษาและตรวจซ่อมหลังการขาย
• มีการรับประกันสินค้า ไม่น้อยกว่า 1 ปี
• ควรขอคำแนะนำ แหล่งซื้อขายเปียโนมือสอง จากคนที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับเปียโน

ซื้อเปียโนไฟฟ้า ทางออนไลน์ได้มั้ย

สำหรับคนที่ไม่สะดวกในการไปซื้อสินค้าที่ร้าน สามารถซื้อผ่านทางออนไลน์ได้ โดยเฉพาะรุ่นที่นิยมใช้กันมาก แต่ต้องเลือกซื้อจากร้านค้าที่น่าเชื่อถือ มียอดขายสินค้า และมีการรีวิวที่ดีจากลูกค้าด้วย

มีร้านขายเปียโนหลายร้านที่มีเว็บไซต์ให้ข้อมูล และลูกค้าสามารถสั่งสินค้าทางออนไลน์ได้ ลองค้นหาในอินเตอร์เนทดูครับ .. ควรมีการติดต่อ พูดคุย ก่อนการสั่งซื้อนะครับ

นอกจากนี้ ร้านค้าออนไลน์ ที่เป็นที่นิยมกันในบ้านเรา ก็คือ Lazada ขายสินค้าหลายหลายทุกอย่าง สำหรับเปียโนไฟฟ้าไม่เป็นที่นิยมมากนัก .. ลองตรวจสอบดู เปียโนไฟฟ้ารุ่น และยี่ห้อที่เราสนใจ และ เช็คราคาใน Lazada เพื่อเป็นข้อมูลในการเลือกซื้อได้ครับ

แต่การซื้อสินค้าออนไลน์ก็มีความเสี่ยงอยู่นะครับ คือ เราไม่ได้เห็นสินค้าตัวจริง ไม่ได้สัมผัส ไม่ได้ฟังเสียงจริง ๆ .. ควรใช้ข้อมูลเหล่านี้ ประกอบการซื้อด้วยครับ

เรียนเปียโนด้วยตัวเอง ควรใช้หนังสือ เล่มไหนดี

มาถึงจุดนี้ เราคงสามารถเลือกเปียโน รุ่นที่เหมาะสม และหาแหล่งซื้อที่น่าเชื่อถือได้เรียบร้อยแล้วนะครับ ต่อไปก็ต้องเป็นขึ้นตอนการเรียนกันละ เรื่องแรกที่ต้องหาคำตอบก่อนเรียนก็คือ จะใช้ตำรา หรือ หนังสือเรียนเปียโน (Piano Method Book) เล่มไหนดีละ

สำหรับเพื่อน ๆ หรือคนที่ตัดสินใจเรียนเปียโนกับคุณครู หรือสมัครเรียนกับสถาบันดนตรีต่าง ๆ คงไม่มีปัญหาเรื่องการเลือกหนังสือเรียน สามารถปรึกษากับคุณครูผู้สอนได้ หรือ เรียนตามที่โรงเรียนกำหนดไว้

แต่สำหรับคนที่ตัดสินใจจะเรียนเปียโนด้วยตัวเอง รวมทั้งผมด้วย มีความจำเป็นต้องเลือกตำราเรียนที่เหมาะสม และคาดว่าจะมีวิธีการเรียนที่ถูกต้อง ทั้งเนื้อหา วิธีการ เทคนิค และขั้นตอนการเรียน ไปตามลำดับความยากง่าย ปัจจุบันตำราเรียนเปียโนมีอยู่มากมาย ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ หลากหลายสำนักพิมพ์ มากมายคนแต่ง .. เลือกเล่มไหนดีละ เราต้องไปศึกษาเรื่องนี้กันครับ

จากการหาข้อมูลจากหลายแหล่ง เรื่องการเลือกหนังสือเรียนเปียโนสำหรับผู้ใหญ่ (แน้นสำหรับผู้ใหญ่นะครับ) พบว่ามีหลายเล่มที่น่าสนใจ มียอดขายเป็นจำนวนมาก มีคะแนนรีวิวอยู่ในระดับพอใจมากของลูกค้า (ควรได้ไม่น้อยกว่า 4 ใน 5 ดาว) และเป็นที่นิยมของนักเปียโนมือใหม่ทั่วโลก นอกจากนี้ยังผลิตโดยสำนักพิมพ์ที่มีชื่อเสียง และมีประสบการณ์ในการผลิตหนังสือ หรือสื่อการสอนเปียโน หรือดนตรี ประเภทต่าง ๆ เป็นระยะเวลานานหลายปี

แนะนำ หนังสือเรียนเปียโน ด้วยตัวเอง

ผมจะขอเลือกสื่อการสอนเปียโน สำหรับผู้ใหญ่ ที่นิยมกันทั่วโลกเป็นภาษาอังกฤษนะครับ เนื่องจากมีแหล่งให้ศึกษาวิธีการเล่นต่าง ๆ ใน YouTube มากมาย เป็นการเรียนเปียโนออนไลน์ฟรีครับ .. ส่วนหนังสือภาษาไทย สามารถใช้ประกอบการเรียนได้ครับ .. หนังสือที่จะแนะนำสำหรับผู้ใหญ่ ที่จะเริ่มเรียนเปียโนด้วยตัวเอง มีดังต่อไปนี้ครับ

หนังสือที่เลือกมา แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มนะครับ เราควรเลือกชุดใดชุดหนึ่ง คือ

1. Alfred’s Basic Adult All-In-One Course: Lesson, Theory, Technic เขียนโดย Willard A Palmer มีอยู่ 3 เล่ม ( Level 1, Level 2, และ Level 3)
2. Alfred’s Basic Adult Piano Course: Lesson Book เขียนโดย Willard A Palmer มี 3 เล่ม (Level 1, Level 2, และ Level 3)
3. Adult Piano Adventures: All-in-One Lesson Book เขียนโดย Nancy Faber มี 2 เล่ม (เล่ม 1 และเล่ม 2)

หนังสือชุดที่ 1 กับชุดที่ 2 เป็นหนังสือในกลุ่ม Alfred’s Basic Adult Piano Books เขียนโดยผู้เขียนทีมกันครับ มีเนื้อหาการเรียน บทเพลงการฝึกเหมือนกันทั้งหมด .. จะแตกต่างกันที่ ชุดที่ 1 หรือชุด All-In-One จะมีทฤษฎีและเทคนิคเพิ่มเติมขึ้นมา นอกจากการฝึกซ้อมแล้ว ยังมีแบบฝึกหัดให้ฝึกเขียนตัวโน๊ต ด้วย ซึ่งน่าจะช่วยให้การเรียนดนตรีมีการเข้าใจ และจดจำได้ดียิ่งขึ้นครับ

ส่วนหนังสือชุดที่ 3 Faber Adult Piano Adventures มีเนื้อหาโดยรวม และเพลง ใกล้เคียงกับชุดแรก และยังมีหนังสือเล่มอื่นประกอบการฝึก หลังจากฝึกไปสักระยะหนึ่งแล้วด้วยครับ

จริง ๆ แล้วหนังสือเรียนเปียโนเหล่านี้ ผู้เขียนไม่ได้เขียนมาเพื่อสำหรับการเรียนด้วยตัวเอง หรือที่เรียกว่า Self-Teaching นะครับ .. ผู้เขียนแนะนำให้มีครูช่วยแนะนำด้วย .. แต่ในปัจจุบัน เนื่องจากมีสื่อการสอนฟรี แพร่หลายมากมายอยู่บนอินเตอร์เนท โดยเฉพาะ YouTube ซึ่งเป็นแหล่งศึกษาด้วยตัวเองที่ดีที่สุดในตอนนี้

ผมคิดว่า การใช้ตำราเรียนที่นิยมใช้กันทั่วโลก ร่วมกับสื่อการสอนฟรี น่าจะทำให้เราสามารถศึกษา การเรียนเปียโนด้วยตัวเอง และประสบผลสำเร็จได้ .. ต้องพิสูจน์ครับ !

หนังสือที่ผมแนะนำเหล่านี้ มีขายอยู่ใน ร้านขายหนังสือดนตรี ในประเทศไทยนะครับ หรือใครที่ไม่รีบร้อน อาจจะสั่งซื้อร้านค้าออนไลน์จากต่างประเทศ อาจจะได้เวอร์ชั่นที่ใหม่กว่า หรือล่าสุดครับ

ส่วนเรื่องระยะเวลาเรียน จากข้อมูลของคุณครูฝรั่งที่ใช้หนังสือเหล่านี้สอนนักเรียน เค้าบอกว่า นักเรียนส่วนใหญ่จะใช้เวลา ไม่น้อยกว่า 6 เดือน ถึง 1 ปี หรือมากกว่านั้น ต่อหนังสือ 1 เล่ม ขึ้นอยู่กับวิธีการฝึกซ้อมและเวลาการฝึกของแต่ละคน .. ถ้าเราใช้หนังสือ 1 ชุด 3 เล่ม ก็ใช้เวลาประมาณ 3 ปีแล้วครับ .. ไหวมั้ยครับ ! .. ถ้าใครสามารถเรียนด้วยตัวเอง จบทั้งสามเล่มได้ ถือเป็นการประสบความสำเร็จครั้งใหญ่เลยนะครับ

แล้วเราจะ เลือกหนังสือชุดใหน ดีละ

หนังสือทั้ง 3 ชุดที่แนะนำขายดีและเป็นที่นิยมทั่วโลกทั้งหมดครับ .. การเลือกหนังสือ ถ้าเป็นไปได้ ผมแนะนำให้ดูหนังสือเล่มจริงครับ ดูเนื้อหา และรูปแบบการสอนในหนังสือ ว่าเราชอบแบบไหน หรือดู contents จากร้านหนังสือออนไลน์ก็ได้ครับ แล้วค่อยตัดสินใจซื้อ .. หรือจะเลือกตามผมก็ยินดีนะครับ .. สำหรับผม เลือกหนังสือชุดแรกครับ ..

“Alfred’s Basic Adult All-In-One Course: Lesson, Theory, Technic เขียนโดย Willard A Palmer”

เหตุผลก็คือ เป็นหนังสือชุดที่ขายดีทีสุด ในบรรดา 3 เล่มที่แนะนำ มีเนื้อหาเพิ่มเติมในส่วนของทฤษฎีดนตรี และเทคนิคการเล่น และมีแหล่งเรียนรู้ออนไลน์ประกอบกับหนังสือเรียนครับ (หนังสืออีก 2 ชุดที่แนะนำ ก็มีแหล่งเรียนรู้ใน YouTube เหมือนกันครับ)

หนังสือเรียนเปียโนด้วยตัวเอง เล่มแรก ที่เราจะเรียนกันคือ “Alfred’s Basic Adult Piano Course: Adult All-In-One Course Lesson-Theory-Technic Level 1” .. เพื่อน ๆ สามารถดูรายละเอียดของหนังสือเล่มนี้ ได้ที่นี่ ครับ

เพิ่มเติมครับ .. มีคุณครูบางคน แนะนำให้ใช้หนังสือ มากกว่า 1 เล่ม เรียนไปพร้อม ๆ กัน จะได้เรียนเทคนิค การฝึก และเพลงที่หลากหลายครับ .. แต่ผมคิดว่า สำหรับคนที่เริ่มต้นเรียนเปียโนด้วยตัวเอง .. เรียนเล่มเดียว ไปให้รอดก่อน ดูผลงานไปสักระยะหนึ่ง ว่าเป็นที่พอใจ หรือมีความก้าวหน้าหรือไม่ .. แล้วค่อยว่ากันครับ

อีกอย่างครับ หนังสือเหล่านี้ ไม่ได้เป็น หนังสือสอบเกรดเปียโน นะครับ .. การสอบเพื่อให้ได้เกรดเปียโน จะต้องมีการเรียน ต่อยอดเพิ่มเติมออกไปครับ

เรามาเรียนรู้กันต่อครับ ว่า วิธีการฝึกเปียโน ให้ได้ผลและประสบความสำเร็จ ต้องทำอย่างไร .. ต้องบอกไว้ล่วงหน้าเลยครับว่า .. ไม่ง่ายครับ !!!

ฝึกอย่างไร จึงสามารถเล่นเปียโน “เป็น” – มาดูคำแนะนำกันครับ

ต่อไปนี้ เป็นคำแนะนำ วิธีการฝึกเปียโนให้ประสบความสำเร็จครับ

1. มีการกำหนดเป้าหมาย ในทุก ๆ ระยะการฝึก เช่นจะต้องฝึกแบบฝึกหัดย่อยให้ได้ทุกวัน จะต้องฝึกบทที่ 1 ให้จบภายใน 1 เดือน เป็นต้น
2. มีการฝึกที่สม่ำเสมอ ครูสอนเปียโนส่วนใหญ่ แนะนำให้ฝึกเล่นเปียโน “ทุกวัน” วันละอย่างน้อย 20 นาที หรือมากกว่านั้น แต่ผมคิดว่าควรฝึกครั้งละไม่ควรน้อยกว่า 1 ชั่วโมงครับ หรือมากกว่าครับ (แต่ .. การฝึกติดต่อกันหลายชั่วโมง แต่ฝึกแค่สัปดาห์ละ 1 ครั้ง แบบนี้ จะประสบความสำเร็จได้ยากมากครับ) .. ข้อนี้สำคัญมากนะครับ .. คนที่ฝึกเปียโน ส่วนใหญ่ จะ “สอบตก”
3. ช่วงเวลาฝึกไม่ว่าจะเป็น 20 นาที หรือ 1 ชั่วโมง จะต้องเป็นการตั้งใจฝึกจริง ๆ .. ไม่มีสิ่งอื่นเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็น TV วิทยุ โทรศัพท์มือถือ การเล่น Social Media หรือสิ่งรบกวนอื่น ๆ .. สถานที่ฝึกเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่ต้องพิจารณาครับ
4. อย่าพยายามฝึกมากเกินไป หรือเร่งเกินไป ต้องให้สมอง นิ้วมือ ร่างกายได้มีการจดจำครับ ลดความเครียด และฝึกอย่างมีความสุข
5. ฝึกอย่างช้า ๆ และมีการบันทึกการฝึก ฟังซ้ำ เพื่อเรียนรู้จุดผิดพลาด ปัญหา และแก้ไข โดยการฝึกจุดที่มีปัญหามากขึ้น
6. มีการกำหนดเวลาการฝึกเปียโน ที่แน่นอน เช่น ฝึกตอนเช้า 6-7 โมงเช้า หรือฝึกก่อนนอน เวลา 2-3 ทุ่ม เป็นต้น จะทำให้เราสามารถจัดการกับ กิจกรรม หรือการงานอย่างอื่นได้ลงตัว
7. มีขั้นตอนการฝึก ที่เป็นระบบ หนังสือแบบเรียนที่แนะนำไปสามารถช่วยได้ครับ ไม่ว่าจะเป็นการ Warm-Up การฝึกสเกว การฝึกอ่านโน๊ตเปียโน การฝึก Sight-Reading ฝึกความคล่องทั้งมือซ้ายและมือขวา การฝึกเทคนิคต่าง ๆ และ การฝึกบทเพลง แนวต่าง ๆ หลากหลายแบบ
8. ควรมีการพัก สัปดาห์ละ 1 วัน ให้สมองและนิ้วมือได้พักผ่อนบ้าง เปลี่ยนไปทำกิจกรรมอย่างอื่น เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ
9. ช่วงที่ไม่ได้ฝึก ให้ฟังเพลง เพื่อเพิ่มความคุ้นเคย เสริมทักษะด้านดนตรี และจังหวะของเพลงแนวต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเพลงแนว Pop, Jazz, Blue หรือ Classic
10. เมื่อฝึกมาระยะหนึ่งหรือระดับหนึ่งแล้ว ควรเลือกเพลงที่ชอบ และต้องการจะเล่น .. อาจจะเลือกมาจาก หนังสือโน๊ตเปียโนเพลงไทย หรือ หนังสือโน๊ตเปียโนเพลงพระราชนิพนธ์ แล้วฝึกไปพร้อม ๆ กับบทเรียน จะทำให้มีความสุข มีเป้าหมายในการเล่น และผลลัพธ์ มากขึ้น
11. การฝึกบทเพลง ให้แบ่งเพลงเป็นช่วงสั้น ๆ ฝึกซ้ำ ๆ และเพิ่มเติมไปเรื่อย ๆ จนสามารถ เล่นได้ทั้งเพลง
12. ต้องฝึกกีปีละ .. คำตอบคือ ฝึกไปไม่เรื่อย ๆ ครับ ไม่มีหยุด .. จนกว่าจะ “เล่นเปียโนเป็น” .. เป็นแล้วก็ยังต้องฝึกครับ เพื่อความคล่องแคล่ว และมีประสบการณ์มากขึ้น .. เป็นการเรียนรู้ตลอดชีวิตครับ ไม่มีวันหมด

“พรสวรรค์” สร้างได้ด้วยตัวคุณเอง – เชื่อมั้ยครับ

หนังสือที่ขายดีที่สุดของโลกเล่มหนึ่งก็คือ “สัมฤทธิ์พิศวง” Outliers: The Story of Success เขียนโดย Malcolm Gladwell พิมพ์ออกจำหน่ายในปี 2008 พูดถึงพรสวรรค์สามารถสร้างได้สำหรับทุกคน .. คุณ Malcolm บอกว่า ในการทำอะไรซักอย่างหนึ่ง ปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ประสบความสำเร็จ มีความเชี่ยวชาญ ถึงระดับ World-Class ก็คือ การฝึกฝนที่ถูกต้อง เป็นระยะเวลา 10,000 ชั่วโมง

“10,000-Hour Rule” .. เชื่อหรือไม่ครับ พิสูจน์ด้วยตัวคุณเอง !

Now It’s Time to Practice!

มาถึงจุดสุดท้ายแล้วครับ ถ้าเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ท่านใดที่อ่านหรือศึกษาเรื่องราวต่าง ๆ เกี่ยวกับ “การเรียนเปียโนด้วยตัวเอง” ที่ผมเล่ามาทั้งหมด ที่กล่าวมาทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการเลือกวิธีการเรียนเปียโน ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเปียโน การเลือกซื้อเปียโนไฟฟ้า ยี่ห้อหรือรุ่นต่าง ๆ การเลือกซื้อเปียโนไฟฟ้ามือสอง การเลือกตำราเรียน และวิธีการฝึกเปียโนให้ประสบผลสำเร็จ ..

ทั้งหมดเป็นเพียงทฤษฎี และเป็นส่วนประกอบของความสำเร็จเท่านั้นครับ ..

ส่วนทีสำคัญที่สุดคือ การปฏิบัติ ที่ถูกต้อง อดทน และสม่ำเสมอ .. “ฝึก ๆๆๆ และก็ ฝึก” ครับ .. ซึ่งเราจะค่อย ๆ เรียนรู้ และเล่นเปียโนให้ “เป็น” ไปพร้อม ๆ กันครับ

หากเพื่อน ๆ ท่านใดคิดว่า บทความนี้มีประโยชน์ สำหรับการเรียนเปียโนด้วยตัวเอง กรุณาแบ่งปัน หรือแชร์ให้เพือน ๆ คนอื่น หรือคนที่สนใจการฝึกเปียหัดเล่นเปียโนด้วยครับ ไม่ว่าจะเป็นการแชร์ผ่านทาง Social Media, Facebook, Line หรือช่องทางอื่น ๆ เพื่อเป็นการบอกกล่าวให้เข้ามาอ่าน มาศึกษา จะขอบพระคุณมากครับ

หรือหากใครมีคำถาม คำแนะนำ หรือจะแบ่งปันข้อมูลอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ สำหรับการฝึก การเรียนเปียโน กรุณาโพสต์ข้อความของท่านไว้ใน ส่วนของ Comment ด้านล่างนี้นะครับ ผมจะติดต่อกลับโดยด่วนครับ

บทความยอดนิยม

• ติดตาม การเรียนเปียโนด้วยตัวเอง
• แนะนำ หนังสือเรียนเปียโน
• แนะนำ เปียโนไฟฟ้า
• โน้ตเปียโน ฟรี

ขอขอบคุณ และ ขอให้มีความสุขกับการเรียนเปียโนด้วยตัวเองครับ !